เนื้อหาข้างล่างนี้ เป็นส่วนหนึ่งจาก http://www.thaisdb.org
URL : http://www.thaisdb.org/index.php?option=com_content&view=article&id=53&Itemid=59&showall=1
วิธีการอบรมของนักบุญยอห์น บอสโก
ระบบ ป้องกัน ที่คณะซาเลเซียนทั้งชายและหญิงใช้ในการอบรมเยาวชนทั้งชายและหญิงทั่วโลกระบบ ป้องกัน เป็นลักษณะเฉพาะ เป็นวิธีบำเพ็ญชีวิตจิตและวิธีการทำงานอภิบาลของกระแสเรียกซาเลเซียนในพระ ศาสนจักรคาทอลิก เป็นประสบการณ์ด้านความรักการแพร่ธรรม ซึ่งมีพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นต้นธารและมีพระนางมารีเป็นแบบฉบับในการ เอาใจใส่เยี่ยงมารดา ระบบป้องกันนี้ ยังหมายถึงการอยู่ท่านกลางเยาวชนอย่างผู้อบรม ใช้พลังความรักและแรงจูงใจ โดยร่วมงานกับพระจิตเจ้า เพื่อให้พระคริสตเจ้าเจริญเติบโตในใจของเยาวชน คุณพ่อบอสโกเชื่อว่าเยาวชนทุกคนมีเมล็ดพันธุ์แห่งความดีและพลังที่ซ่อนอยู่ ซึ่งต้องการให้ผู้อบรมชี้แนะ เพื่อให้เมล็ดนั้นเติบโตขึ้น ท่านถือว่าการอบรมก่อนอื่นหมดเป็นเรื่องของหัวใจ
ระบบ การอบรมเด็กมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน แต่ระบบที่คุณพ่อบอสโกได้เลือกมาใช้นั้นเป็นระบบที่ยึดหลักสุภาษิตที่ว่า กันไว้ดีกว่าแก้ กล่าวคือการป้องกันมิให้เด็กได้มีโอกาสที่ผิด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องลงโทษเมื่อเด็กได้กระทำความผิด และการอบรมให้เด็กทำหน้าที่ต่างๆ โดยสมัครใจเอง ทฤษฎีที่สอนว่า เราควรปล่อยให้เด็กได้มีโอกาสอยู่ในความไม่ดีต่างๆ เพื่อให้เขาได้ฝึกหัดตัว ในการต่อสู้กับความชั่วทั้งหลายเหล่านั้น เป็นทฤษฎีที่ใช้ไม่ได้ในการอบรมเด็กและเยาวชน เพราะความชั่วต่างๆ ฝังรากลึกอยู่ในใจของเด็กอยู่แล้ว เพราะกำลังใจของเขายังอ่อนแอเกินไป ไม่ช้าก็เร็วเด็กก็ต้องพ่ายแพ้แก่การยั่วยวนของความชั่วต่างๆ บิดามารดาจำนวนมากที่ปล่อยบุตรของตนให้เป็นอิสระเกินควร เช่น ปล่อยเขาให้คบเพื่อนไม่เลือกหน้า ไปเที่ยวกลางคืน ไปดูภาพยนตร์หรือการแสดงที่ไม่เหมาะสมกับวัย อ่านหนังสือประเภทลามกอนาจาร ฯลฯ ในที่สุดตัวพ่อแม่ของเด็กเองที่จะได้รับทุกข์จากความประพฤติที่ไม่ดีของบุตร เป็นการตอบแทน
คุณ พ่อบอสโกได้ปรับปรุงสถานที่อยู่ของเด็ก ให้เป็นเสมือนหนึ่งครอบครัว พวกเด็กๆ ต่างก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ด้วยความอบอุ่นและความรักจากคุณพ่อบอสโก เหมือนดังว่าพวกเขาได้อยู่กับบิดามารดาของพวกเขาเอง ผู้ใหญ่ทุกคนใกล้ชิดอยู่กับพวกเด็กๆ และอยู่กับพวกเขาตลอดเวลา โดยผู้ใหญ่ต่างก็สนใจในสิ่งที่เด็กชอบเพื่อเอาใจของพวกเขา และโน้มน้าวพวกเขาให้ทำแต่สิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการให้เขาทำ อธิการของโรงเรียนทำตนเป็นบิดามากกว่าที่จะทำตนเป็นอธิการ ส่วนผู้ใหญ่คนอื่นๆ ก็เป็นเหมือนพี่ๆ ของเด็ก ส่วนนักเรียนก็เหมือนน้องๆ ความรักและความไว้เนื้อเชื่อใจซื่งกันและกันเป็นสิ่งเชื่อมประสานให้คนใน ครอบครัวมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดฉันใด ความไว้เนื้อเชื่อใจชนิดเดียวกันนี้เอง ก็เกี่ยวโยงผู้ใหญ่กับเด็กให้เป็นน้ำหนึ่งในเดียวกันฉันนั้น
ระบบ การอบรมเด็กของคุณพ่อบอสโก ยึดหลักความรัก ศาสนาและเหตุผลเป็นที่ตั้ง ความรักต่อเด็กต้องเป็นเอกลักษณ์ของคณะนักบวชซาเลเซียน ผู้อบรมเด็กต้องจำไว้เสมอว่า ตนเป็นผู้แทนบิดามารดาของเขา ดังนั้นจะต้องรักเด็กให้เหมือนที่บิดามารดารักเขา
ในการลงโทษเด็กเมื่อเขาทำผิด คุณพ่อบอสโกให้ถือหลักดังต่อไปนี้
- ให้ลงโทษด้วยความยุติธรรม อย่าลงโทษหนักเพราะความผิดอันเล็กน้อย
- การลงโทษอย่าให้เป็นการแก้แค้น และอย่าลงโทษเมื่อตัวเองกำลังสับสนวุ่นวายหรือเมื่อเด็กกำลังโมโหอยู่
- การงดแสดง ความรักความเอ็นดู ก็จะเป็นโทษพอที่ทำให้เด็กรู้สึกตัวและมีมานะขึ้น ทั้งไม่ทำให้เด็กรู้สึกน้อยใจด้วยสำหรับเด็กๆ อะไรที่ใช้ให้เป็นโทษก็นับว่าเป็นโทษ เคยปรากฏแล้วว่า การมองอันไม่อ่อนโยนต่อเด็กบางคนได้ผลมากกว่าการตบตี การชมเชยเมื่อเขาได้ทำความดีและการติเตียนเมื่อเขาทำผิด ก็เป็นรางวัลและเป็นการลงโทษเพียงพออยู่แล้ว
- การเฆี่ยน ตีไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ การให้คุกเข่าในท่าลำบาก การดึงหู และการลงโทษอื่นๆ ทั้งหมดนี้จะต้องงดเว้นอย่างเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้เด็กเจ็บใจมาก ทั้งเป็นที่อัปยศอดสูแก่ตัวผู้อบรมด้วย
หากว่าผู้ใหญ่ ปฏิบัติตามระบบนี้แล้ว เชื่อได้ว่าเขาจะได้รับผลอันดีงามโดยไม่ต้องใช้ไม้เรียว หรือการลงโทษอันรุนแรงเป็นเวลาประมาณ 40 ปี ที่คุณพ่อบอสโกได้อยู่กับเด็กและไม่ได้ทำโทษรุนแรงกับเด็กเลย โดยท่านอาศัยความช่วยเหลือของพระเจ้าท่านก็ได้ผลดีเสมอมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น